10 วิธีเปลี่ยนตัวเองเป็นผู้ประกอบการสุดแกร่ง
สำหรับผู้ที่จะก้าวมาเป็นผู้ประกอบการ หรือเป็นเจ้าของกิจการอาจจะคิดว่าไม่ใช่เรื่องยากที่จะทำให้ธุรกิจเดินหน้าได้ แต่ในความเป็นจริงแล้วไม่ใช่มีแค่เรื่องตัวเงินหรือการบริหารจัดการองค์กรเท่านั้น แต่ต้องมีตัวแปรต่างๆ ที่ต้องเรียนรู้และใส่ใจ ทิ้งความเข้าใจที่คิดว่าจะมีวิธีสำเร็จรูปตายตัวมาเป็นตัวช่วยให้ธุรกิจแข็งแรง ถ้าหากจะให้ธุรกิจมั่นคง ผู้ประกอบการจะต้องสร้างความเข้มแข็งทางจิตใจโดยการอาศัยบทเรียนที่ได้ทั้งในตำราและบนโลกกว้าง
1.คำชี้แนะของผู้มีประสบการณ์
คนที่อาบน้ำร้อนมาก่อนย่อมเคยเจอปัญหาและหาทางแก้ไขมาก่อน อย่างน้อยถ้าเราได้รู้จักและพูดคุยกับคนที่มีประสบการณ์ แม้เขาจะสามารถแก้ไขปัญหาได้ แต่ก็อาจจะมีปัญหาที่สามารถแชร์กันหรือเล่าสู่กันฟัง ทำให้เราเตรียมพร้อมรับมือกับปัญหาที่จะเกิดขึ้นในวันข้างหน้าได้ นอกจากนี้อาจจะได้ทัศนคติที่กว้างมากขึ้นในการทำธุรกิจ แถมได้บทเรียนที่น่าสนใจแบบไม่ต้องเรียนรู้เอง เผลอๆ ยังได้แรงบันดาลใจเพิ่มอีกด้วย
2.ควรอ่านให้มากที่สุด
การอ่านเป็นสิ่งที่ขาดหายไปในปัจจุบัน ถ้าหากคุณต้องการเติมอาหารสมองก็ควรที่จะอ่านได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ป้อนข้อมูลให้ตัวเองเพื่อเพิ่มความรู้แล้วทำความเข้าใจกับสิ่งที่อ่าน ตีความให้แตกแล้ววิเคราะห์ประเด็นให้ออก คุณจะปลดล็อคสกิลการคิดวิเคราะห์เป็นเหตุเป็นผลมากขึ้นด้วยตัวคุณเอง
3.Connection ต้องมี
หน้าที่ของผู้ประกอบการไม่ใช่มีแค่ด้านบริหารอย่างเดียว ด้านสังคมก็ต้องมีเช่นกัน การหากิจกรรมต่างๆ เพื่อเข้าร่วมพบปะกับคนที่มีทัศนคติ จิตวิญญาณที่คล้ายคลึงกัน ความชอบที่เหมือนกัน นำไปสู่การสร้างความสัมพันธ์ที่ดี ทั้งนี้ก็ไม่ได้หมายความว่าที่ทำไปเพื่อธุรกิจเพียงอย่างเดียวแต่การสร้างมิตรภาพทำให้ได้สังคมที่กว้างขึ้น ทำให้เรารู้จักคนหลายแบบจะทำให้เราเข้าใจวิธีคิดของคนหลากหลายขึ้น
4.คิดหาอะไรใหม่ๆ ตลอดเวลา
การพัฒนาตัวเองและธุรกิจจะไปต่อไม่ได้เลยถ้าขาดการคิดสร้างสรรค์ ค้นหาความท้าทายใหม่ๆ ธุรกิจจะก้าวหน้าได้อย่างไรหากผู้ประกอบการยังคงยึดติดรูปแบบเดิมๆ ไม่มีการทดลองทำอะไรใหม่ๆ ซึ่งมันอาจจะเวิร์คหรือไม่เวิร์ค ถ้าไม่เวิร์คก็ข้ามไป แต่ถ้าเวิร์คก็จะเป็นทางที่สามารถต่อยอดให้กับธุรกิจต่อไปได้
5.ทบทวนวิธีคิดของตัวเองสม่ำเสมอ
ทบทวนแนวคิดต่างๆ วิสัยทัศน์ทุกวัน ถ้าไปต่อไม่ได้เพราะวางแผนไว้ไม่ถูกทางก็จะได้ทำการแก้ไขแล้ววางแผนใหม่ การทบทวนถือเป็นการรีเช็คที่สามารถทำได้ตลอด คุณต้องพร้อมที่จะเปลี่ยนสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ยิ่งฝืนยิ่งเสียหาย ทางที่ดีเมื่อตระหนักได้แล้วก็ควรเร่งแก้ไข
6.ทำให้มากกว่าที่พูด
แม้ว่าคุณจะโฆษณาสินค้าไปมากขนาดไหน มันก็ไม่เท่ากับลูกค้าได้เจอประสบการณ์ที่ดีกว่าด้วยตัวเอง ดังนั้นเคล็ดลับของผู้ประกอบการก็คือ ควรทำให้มากกว่าที่พูด ไม่ใช่เพียงแค่งานส่งมอบลูกค้าเท่านั้น แต่รวมไปถึงการกระทำของตัวคุณเอง ลูกน้องก็จะเห็นคุณเป็นตัวอย่างที่ดีที่ควรทำตาม
7.อยู่ในทุกส่วนของธุรกิจ
ผู้ประกอบการคือฟันเฟืองใหญ่ของธุรกิจที่จะพาองค์กรให้หมุนไปข้างหน้าหรือถอยหลังได้ สิ่งที่คุณควรทำคือเรียนรู้ธุรกิจของตัวเองในทุกมิติ ทุกส่วนงาน เพื่อแก้ไขและพัฒนาได้อย่างรอบด้าน
8.มีวินัยในตนเอง
ฝึกให้ตัวเองมีวินัยทั้งการใช้ชีวิตประจำวัน และทั้งด้านบริหารธุรกิจ ยิ่งเรื่องเงินต้องยิ่งมีวินัย การแบ่งสัดส่วนเงินของธุรกิจและของส่วนตัวจะต้องชัดเจน วางไว้อย่างเป็นระบบและสามารถตรวจสอบได้
9.ฟังอย่างตั้งใจและทำความเข้าใจ
การสื่อสารสองทางยังไงก็ดีกว่าทางเดียว การที่คุณพูดๆ โดยไม่สนใจฟังคุณจะไม่ได้รู้ Feedback และนำไปสู้การวิเคราะห์ที่ไม่ถูกต้อง ดังนั้นการตั้งใจแล้วฟังให้มากกว่าพูด พยายามทำความเข้าใจให้ตรงกัน ถ้าหากไม่แน่ใจก็ควรย้อนถามเพื่อความถูกต้องไม่ใช่เรื่องที่น่าอาย แต่คุณคือมืออาชีพโดยแท้จริง คุณสามารถเก็บข้อมูลได้ด้วยการฟัง
10.ช่วยเหลือผู้อื่นเมื่อทำได้
หมั่นช่วยเหลือผู้อื่นเมื่อสามารถช่วยได้ แน่นอนว่าคุณอาจไม่ได้อะไรจากการช่วยเหลือคนอื่นแต่มันมีผลต่อจิตใจของคุณ สามารถกลายเป็นแรงผลักดันให้คุณต้องพยายามและก้าวต่อไปเพื่อที่จะสามารถช่วยเหลือผู้อื่นต่อไปได้