สหรัฐฯ สั่งปรับ ‘เฟซบุ๊ก’ 1.5 แสนล้านบาท

สหรัฐฯ สั่งปรับ ‘เฟซบุ๊ก’ 1.5 แสนล้านบาท ฐานละเมิดความเป็นส่วนตัวผู้ใช้

เมื่อวันที่ 12 ก.ค.62 ที่ผ่านมา หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัล รายงานว่าคณะกรรมาธิการการค้าของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ (FTC) อนุมัติคำสั่งปรับเงิน “เฟซบุ๊ก” จำนวนราว 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (1.5 แสนล้านบาท) ฐานฝ่าฝืนกฎระเบียบความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งานรายงานระบุว่า บทลงโทษดังกล่าวเกิดจากการลงคะแนนของคณะกรรมาธิการฯ ซึ่งฝ่ายรีพับลิกันลงคะแนนเสียงเห็นชอบ 3 เสียง มากกว่าฝ่ายเดโมแครตที่ลงคะแนนเสียงคัดค้าน 2 เสียง โดยกระทรวงยุติธรรมของสหรัฐฯ จะเป็นผู้พิจารณาในลำดับต่อไปอย่างไรก็ดี ยังไม่มีข้อมูลแน่ชัดถึงข้อห้ามที่จะถูกบังคับใช้กับเฟซบุ๊กในด้านการดูแลความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ในอนาคต

โดยทั้งคณะกรรมาธิการฯ และเฟซบุ๊กปฎิเสธจะออกความเห็นกับเรื่องนี้จุดเริ่มต้นของเรื่องทั้งหมด เกิดจากกรณีอื้อฉาวของอดีตบริษัทให้คำปรึกษาสัญชาติอังกฤษอย่างแคมบริดจ์ อานาไลติกา (Cambridge Analytica) ที่ถูกกล่าวหาว่าเข้าถึงข้อมูลของผู้ใช้เฟซบุ๊กมากกว่า 87 ล้านคน โดยมิได้มีการแจ้งเตือนก่อนคณะกรรมาธิการฯ จึงเริ่มกระบวนการสอบสวนว่าการที่เฟซบุ๊กมอบข้อมูลผู้ใช้งานจำนวนมหาศาลแก่เคมบริดจ์ อานาไลติกา ถือเป็นการละเมิดข้อตกลงความยินยอมปี 2011 ระหว่างเฟซบุ๊กและหน่วยงานผู้ควบคุมกฎระเบียบหรือไม่ทั้งนี้ บทลงโทษดังกล่าวอาจเป็นหนึ่งในการลงโทษปรับบริษัทเทคโนโลยีครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติการณ์ของคณะกรรมาธิการฯ แต่รายงานระบุว่าคงไม่ได้ส่งผลกระทบต่อเฟซบุ๊กมากนัก เนื่องจากเฟซบุ๊กกวาดรายได้เกือบ 5.6 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.7 ล้านล้านบาท) ในปี 2018 ขณะหุ้นของเฟซบุ๊กปิดตัวสูงขึ้นร้อยละ 1.81 ในวันศุกร์ที่ผ่านมา (12 ก.ค.)