ต้องบอกก่อนเลยว่า Conversion ในภาษาของ Digital Marketing สามารถแปลได้หลากหลายอย่าง แต่ถ้าจะให้ตรงตัวมากที่สุด อาจแปลได้ว่า Conversion คือหน่วยนับของการกระทำภาย ซึ่งการกระทำนี้ต้องมีคุณค่ามากกว่าการวัดจากพื้นฐานโดยทั่วไป นอกเหนือจากการคลิก Engagement หรือ Impression ซึ่งเราสามารถกำหนดค่า Conversion เองได้
Conversion คือการกระทำบางอย่างที่เราต้องการจากผู้ที่เข้าเว็บไซต์ของเรา (ลูกค้านั่นเอง) และหลายๆครั้งมันถูกใช้เป็นเป้าหมายในการทำการโฆษณา ซึ่งเจ้า Conversion เนี่ยอาจจะเป็นการสั่งซื้อของก็ได้ เป็นการสมัครสมาชิก การลงทะเบียน การสมัครรับข้อมูลข่าวสาร การอ่านบทความในหน้าเพจจนจบ และอื่นๆที่สร้างประโยชน์ให้กับเจ้าของเว็บไซต์การทำโฆษณาออนไลน์ส่วนใหญ่แล้วมักจะมีการกำหนด Convesion เป็นหนึ่งใน Metric การวัดผลว่าการทำโฆษณาครั้งนั้นบรรลุผลหรือไม่ การทำโฆษณาที่ดีย่อมนำไปสู่การเกิด Conversion ขึ้นเป็นจำนวนมาก แต่ถ้าทำโฆษณาแล้วไม่เกิด Conversion ขึ้นเลยอาจจะหมายถึงการทำโฆษณาที่ล้มเหลว
ประโยชน์ของการกำหนด Conversion ในแง่ของการโฆษณา
Facebook Ads
สำหรับ Facebook Ads เมื่อเราติดตั้ง Facebook Pixel ลงในเว็บไซต์แล้ว เราสามารถปรับแต่ง Conversion ตามที่เราต้องการได้สูงสุดถึง 100 Conversions เลยทีเดียว และเรายังนำ Conversion เหล่านั้นมาใช้ประโยชน์ในการโฆษณา คือการโฆษณาเพื่อมุ่งหา Conversion โดยเฉพาะทำให้โฆษณาเกิดคุณค่ามากกว่าคลิก หรือ Engagement นั่นเอง
Google Ads
ส่วนของ Google Ads ก็จะมีโค้ดสำหรับการทำ Remarketing เช่นเดียวกับ Facebook Ads โดยเฉพาะ Paid Search เมื่อเรากำหนดค่า Conversion เป็นที่เรียบร้อย และมี Conversion เข้ามาเป็นจำนวนหนึ่ง เราสามารถกำหนดค่าการ Bidding เป็นแบบพิเศษที่เหนือกว่า Manual CPC หรือ Maximize Click นั่นคือ Target CPA และ Maximize Conversion ซึ่ง Target CPA เราสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายไม่ให้เกินต่อ 1 Conversion ได้ ส่วน Maximize Conversion ก็จะทำให้เกิด Conversion สูงสุดเท่าที่เป็นไปได้
จะเห็นได้ว่าการสร้าง Conversion เป็นอะไรที่ดูแล้วเหนือกว่าการวัดผลแบบธรรมดา คือการวัดผลที่มีคุณค่า แต่นั่นก็จำเป็นที่จะต้องใช้ความรู้และความเข้าใจมากขึ้นกว่าเดิมเช่นเดียวกัน หากใครเคยลองทำโฆษณาแบบ Conversion กันมาแล้วได้ผลเป็นอย่างไร ก็มาสามารถมาแชร์กันได้ Chesss studio รับออกแบบเว็บไซด์