สวัสดีค่ะ Chess Studio รับทำเว็บไซต์ ขอนำเสนอวิธีการตรวจสอบสิทธิ์แบบ 2 ปัจจัย หรือเรียกง่ายๆ ว่า ยืนยันแบบ 2 ขั้นตอน ซึ่งจะเป็นการยืนยันทุกครั้งที่มีการลงชื่อเข้าใช้ในบัญชีอีเมล์ของคุณ ไม่ว่าคุณจะ Login บน PC หรือ Smartphone ก็ตามก็จะมีแจ้งเตือนให้ใส่รหัสที่ส่งตรงถึงคุณเพื่อยืนยันตัวตนก่อนเสมอ เรื่องความปลอดภัยเป็นประเด็นที่คุณควรคำนึงให้มากที่สุดเพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิดการเข้าถึงข้อมูลส่วนตัว ไปจนถึงข้อมูลด้านการเงินได้เลยทีเดียว
ทำไมจึงต้องยืนยัน E-mail ทุกครั้งเมื่อใช้งาน
เนื่องจากปัจจุบันเราท่องโลกอินเตอร์ได้อย่างอิสระ คุณสามารถเข้าถึงข้อมูลต่างๆ บนเว็บไซต์ และ Application ได้ง่ายๆ เพียงแค่กดยอมรับเพื่อให้ผู้ให้บริการมีสิทธิเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวได้ง่ายๆ อย่างการ login ด้วย E-mail, facebook หรือ Twitter ด้วยกดเลือกไอคอนเฟซบุ๊คเพื่อ link กับเฟซบุ๊คโดยตรง เพื่อเข้าสู่เว็บไซต์ไปดาวน์โหลดข้อมูล ภาพ เสียง ไฟล์ต่างๆ ได้โดยไม่ต้องกดสมัครเลยด้วยซ้ำหรือบางเว็บไซต์ให้ระบุ User และให้กรอก password ของ Email ลงไปอีกด้วย นี่ยังไม่รวมถึงการโดน phishing (เทคนิคการหลอกลวงโดยใช้อีเมลหรือหน้าเว็บไซต์ปลอมเพื่อให้ได้มาซึ่ง ชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน หรือข้อมูลส่วนบุคคลอื่นๆ) การติด Spyware ที่คุณต้องเสี่ยงที่จะพบเจอได้อีก
ยิ่งไปกว่านั้นถ้าหาก user และ password ของ E-mail ที่ใช้อยู่ดันไป Link อยู่กับเว็บไซต์ขายของที่คุณผูกบัตรเครดิตเพื่อซื้อของไว้ด้วยแล้วก็คงเป็นเรื่องที่ต้องระวังด้วยไม่น้อย นอกจากนี้คนส่วนใหญ่มักจะตั้ง User และ Password ของ Email ไว้เหมือนกันกับ Facebook ถ้าถูกแฮ็คขึ้นมาก็ยากที่จะได้บัญชีผู้ใช้คืน เพราะผู้แฮ็คก็จะได้ทั้งบัญชี E-mail และบัญชี facebook ไปอย่างกล้วยๆ ดังนั้นผู้เขียนขอเน้นความสำคัญไปที่ E-mail เนื่องจาก Facebook ใช้ E-mail ในการยืนยัน ถ้าหากวันใดวันนึงโดนแฮ็คบัญชีเฟซบุ๊กขึ้นมาแล้วมีโจรใช้บัญชีเฟซบุ๊คของเราไปเป็นช่องทางหาเงินในทางที่ผิด เราก็สามารถที่จะกู้บัญชีเฟซบุ๊กกลับมาได้ด้วย E-mail
นี่จึงเป็นเหตุผลที่เพียงพอที่คุณจะต้องรักษาความปลอดภัยของ E-mail ด้วยการเปิดการยืนยันแบบ 2 ขั้นตอน
ขั้นตอนการเพิ่มความปลอดภัยให้บัญชี E-mail
ขั้นตอนที่ 1 ตั้งค่ายืนยันแบบ 2 ขั้นตอน
1.ไปที่บัญชี Google หรือคลิกลิ้งค์ https://myaccount.google.com/
2.คลิกไปที่ ความปลอดภัย (อยู่แผงนำทางด้านซ้ายมือ)
3.แล้วคลิกเปิดใช้งาน การยืนยันแบบ 2 ขั้นตอน
4.ทำตามขั้นตอนด้วยการยืนยัน Password ของบัญชี Google แล้วก็รอข้อความที่มีรหัสยืนยัน 6 หลัก ส่งไปยังหมายเลขโทรศัพท์ที่เราได้ทำการกรอกไว้
ขั้นตอนที่ 2 ตั้งค่าการสำรองข้อมูล
การสำรองข้อมูลช่วยให้คุณกลับเข้าบัญชีได้เมื่อลืมรหัสผ่าน โทรศัพท์หาย หรือลงชื่อเข้าใข้ไม่ได้ด้วยเหตุผลอื่น การสำรองข้องมูลช่วยลดความเสียงของการถูกล็อกออกจากบัญชี
1.ไปที่บัญชี Google หรือคลิกลิ้งค์ https://myaccount.google.com/
2.คลิกไปที่ ความปลอดภัย (อยู่แผงนำทางด้านซ้ายมือ)
3.ตรงแผง การลงชื่อเข้าใช้งาน Google ให้แตะการยืนยันแบบ 2 ขั้นตอน
4.เพิ่มขั้นตอนที่ 2 อย่างน้อย อีก 1 ขั้นตอน เช่น
- Google Prompt
- คีย์ความปลอดภัย
- รหัส SMS หรือรหัสจากการโทร
- รหัสสำรอง
- รหัสจากแอป Authenticator
- โทรศัพท์สำรอง
ขั้นตอนที่ 3: ตั้งค่าข้อมูลการกู้คืน
หากมีข้อมูลการกู้คืนที่อัปเดต คุณจะกลับเข้าใช้บัญชีได้ในกรณีที่ลืมรหัสผ่านหรือมีผู้อื่นแอบใช้บัญชีโดยไม่ได้รับอนุญาต
เพิ่มหรืออัปเดตที่อยู่อีเมลสำรอง
- ไปที่บัญชี Google หรือคลิกลิ้งค์ https://myaccount.google.com/
- แตะข้อมูลส่วนบุคคล
- ในแผง “ข้อมูลติดต่อ” ให้แตะอีเมล
- เพิ่มหรืออัปเดตอีเมลสำรองที่นี่
เพิ่มหรืออัปเดตหมายเลขโทรศัพท์สำหรับการกู้คืน
- ไปที่บัญชี Google หรือคลิกลิ้งค์ https://myaccount.google.com/
- แตะข้อมูลส่วนบุคคล
- ในแผง “ข้อมูลติดต่อ” ให้แตะโทรศัพท์
- เพิ่มหรืออัปเดตหมายเลขโทรศัพท์สำหรับการกู้คืนที่นี่
วิธีลงชื่อเข้าใช้ด้วยการยืนยันแบบ 2 ขั้นตอน
การลงชื่อเข้าใช้ด้วยการยืนยันแบบ 2 ขั้นตอนทำได้ง่ายๆ
- ไปที่หน้าลงชื่อเข้าใช้ แล้วป้อนชื่อผู้ใช้และรหัสผ่านตามปกติ
- จากนั้นระบบจะขอให้ทำขั้นตอนการยืนยันครั้งที่ 2 เช่น ให้ป้อนรหัส 6 หลักหรือข้อความแจ้ง ซึ่งคุณจะได้รับจาก Google ทางโทรศัพท์ เมื่อป้อนรหัสแล้ว คุณจะเลือกให้เชื่อถือคอมพิวเตอร์เครื่องที่ใช้อยู่ได้หากต้องการ ซึ่งหมายความว่าคุณจะไม่ต้องทำขั้นตอนการยืนยันครั้งที่ 2 อีกเมื่อลงชื่อเข้าใช้จากคอมพิวเตอร์เครื่องนี้ แต่หากลงชื่อเข้าใช้จากคอมพิวเตอร์เครื่องอื่น ระบบจะขอให้คุณดำเนินการขั้นตอนการยืนยันครั้งที่ 2 อีก
ขอให้ Google จำคอมพิวเตอร์ไว้
หลังจากที่ลงชื่อเข้าใช้ด้วยคีย์แล้ว คุณจะลงชื่อเข้าใช้โดยใช้แค่รหัสผ่านได้ ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้เฉพาะกับคอมพิวเตอร์ที่คุณใช้เป็นประจำและไม่ได้แชร์กับบุคคลอื่น
- ลงชื่อเข้าใช้บัญชี Google
- ทำเครื่องหมายที่ช่องอย่าถามในคอมพิวเตอร์เครื่องนี้อีก
- ลงชื่อเข้าใช้ด้วยคีย์ความปลอดภัยให้เสร็จสิ้น
ถ้ามีใครพยายามลงชื่อเข้าใช้บัญชีของคุณจากคอมพิวเตอร์เครื่องอื่น บัญชี Google จะถามหาคีย์ความปลอดภัย
ติดตั้ง Google Authenticator
หากคุณตั้งค่าการยืนยันแบบ 2 ขั้นตอน คุณจะใช้แอป Google Authenticator เพื่อรับรหัสได้ แม้จะไม่มีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตหรือบริการของอุปกรณ์เคลื่อนที่ก็ตาม
ข้อกำหนด
หมายเหตุ: หากมีบัญชีที่ได้จากที่ทำงาน โรงเรียน หรือกลุ่มอื่นๆ องค์กรของคุณอาจไม่อนุญาตให้ใช้การยืนยันแบบ 2 ขั้นตอน โปรดสอบถามผู้ดูแลระบบเพื่อตรวจสอบให้แน่ใจ
หากต้องการใช้ Google Authenticator ในอุปกรณ์ Android คุณจะต้องใช้รายการต่อไปนี้
- Android เวอร์ชัน 2.1 หรือใหม่กว่า
- การยืนยันแบบ 2 ขั้นตอนที่เปิดไว้
ดาวน์โหลดแอป
ตั้งค่าแอป
-
ในโทรศัพท์หรือแท็บเล็ต Android ให้เปิดแอปการตั้งค่า ของอุปกรณ์ Google บัญชี Google
- ที่ด้านบน ให้แตะความปลอดภัย
- ในส่วน “การลงชื่อเข้าใช้ Google” ให้แตะการยืนยันแบบ 2 ขั้นตอน คุณอาจต้องลงชื่อเข้าใช้
- ในส่วน “ตั้งค่าทางเลือกสำหรับขั้นตอนที่ 2” ให้หา “แอป Authenticator” และแตะตั้งค่า
- ทำตามขั้นตอนบนหน้าจอ
- หากต้องการตรวจสอบว่าใช้งานได้ ให้รับโค้ดจากแอป Authenticator แล้วป้อนในการตั้งค่าของคุณ
หากโค้ดถูกต้อง คุณจะเห็นข้อความยืนยัน