ปลดล็อค! ทำ Digital Marketing เท่าไหร่ก็ไม่เกิด
การพัฒนาระบบเกิดขึ้นทุกวัน Digital Marketing ในห้วงเวลานี้มีความเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก การปรับ Algorithm ต่างๆ ไปถึงพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป ในปีที่ผ่านมานักการตลาดเห็นว่าอัลกอรึทึมของเฟซบุ๊กทำงานอย่างไร Instagram มีคนใช้มากเท่าไหร่ Twitter กลับมามีบทบาทสำคัญอย่างไร การใช้หลายๆ ศาสตร์ผสมกันดีอย่างไร ซึ่ง Digital Marketing ยังคงเป็นเครื่องมือที่สำคัญ ในปี 2018 Digital marketing เป็นเครื่องมือที่จะต้องใช้ธุรกิจจะต้องทำ ต้องคิดวางแผน สำหรับผู้ที่ใช้ Digital จนคุ้นเคยแล้วก็จะสามารถวางแผนในรูปแบบ Integrated ระหว่าง Digital กับ Physical เพิ่มขึ้นมาได้ Chess Studio รับทำเว็บไซต์ จึงขอแนะนำ 5 เหตุผลหลักที่ฉุดให้ Digital Marketing ของคุณทำเท่าไหร่ก็ไม่เกิดสักที
1.ไม่ได้ทำ Curated Content
การทำ Content เป็นหัวใจสำคัญของการทำ Digital Marketing เนื่องจากทำให้เกิดการรับรู้ การเปรียบเทียบ นำไปสู่การตัดสินใจซื้อ นอกจากนี้ยังมีผลทางอ้อม ช่วยให้กระตุ้นให้เกิดการค้นหาของผู้ที่ต้องการ ช่วยในเรื่อง SEO ทำให้เว็บไซต์ติดอันดับการค้นหา ซึ่งการทำ Curated Content ก็คือเป็นการรวบรวมและคัดสรรคอนเทนต์จากแหล่งต่างๆ นำมาเผยแพร่อีกครั้งผ่านช่องทางของผู้คัดสรร โดยมีคอนเซปต์หรือวิธีการนำเสนอให้น่าสนใจ ซึ่งผู้คัดสรรอาจจะไม่ได้จำเป็นต้องเป็นผู้สร้างคอนเทนต์นั้นๆ เลยก็ได้ การดูแล Content ทำการสะสมเนื้อหาที่น่าสนใจเอา สำหรับนำมาเป็นวัตถุดิบในการสร้างบทความหรือนำเสนอเนื้อหาที่ดีออกไป ทำให้ได้รับรู้และค้นพบวิธีการ เทคนิคใหม่ๆ เนื้อหาที่ออกมาก็จะไม่น่าเบื่ออีกด้วย
2.ไม่เข้าใจระบบของ Platform
หลายท่านทำ Digital Marketing โดยไม่ได้เข้าใจ Algorithm ของ Platform หากศึกษาว่า platform นั้นทำงานอย่างไร วิธีคิดเป็นแบบไหน แล้วจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอะไรขึ้นบ้าง อย่างระบบอัลกอริทึม ของ Google Search เปลี่ยนแปลงมาจนถึงระบบ penguin หรือ อัลกอริทึมของเฟซบุ๊คเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร วิธีการเลือก Content ที่นำมาแสดงของ twitter Instagram เป็นอย่างไร ซึ่งมีส่วนทำให้ Digital Marketing ดับได้ถ้าหากไม่เข้าใจการทำงานของระบบเหล่านี้ เพราะมีผลต่อการสร้างแผนงานเพื่อลงมือทำให้เข้ากับ Algorithm ของ Platform ต่างๆ ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด
3.สื่อสารคนละภาษา
การไม่พูดภาษาเดียวกันกับกลุ่มเป้าหมายในที่นี่ไม่ได้หมายความว่า กลุ่มเป้าหมายพูดอังกฤษแล้วแบรนด์พูดไทย แต่หมายถึง สื่อสารโดยที่ไม่เข้าใจกลุ่มเป้าหมาย การหวังที่จะได้ลูกค้าแต่วิธีการจับกลุ่มเป้าหมายให้ซื้อสินค้า แต่วิธีการสื่อสารคนลแบบ อย่างเช่น การให้นายธนาคารไปคุยกับเด็กที่ไม่ได้สนใจเรื่องการใช้บริการ การสื่อสารที่ไม่ได้เข้าใจกลุ่มเป้าหมายทำให้สิ่งที่นำเสนอออกมาไม่ถูกรับรู้ ปัญหานี้เกิดขึ้นได้จากการทำ Content ด้วยสไตล์ที่ตัวเองชอบ บางครั้งก็ไม่ได้ตรงความต้องการของกลุ่มเป้าหมายเลย
4.ไร้ที่พึ่งทางเครือข่าย
ไม่มี Content ไหนที่ทำออกมาแล้ว จะมีผู้มาเห็นได้เอง ซึ่งจริงๆ แล้วยากมากที่จะมีผู้ใช้เห็นเนื้อหาได้เอง การคิดลงเงินเพื่อซื้อโฆษณาให้คนเห็น Content เป็นหลักนั้นเป็นอะไรที่ไม่ยั่งยืน เพราะต้องลงเงินมากมายกว่าจะทำให้คนสนใจ นำมาสู่การเกิดผลอย่างจริงจัง การมีเครือข่ายเป็นของตัวเองไว้สำหรับสร้างกระแส ช่วยส่งต่อ Content ออกไปทำให้มีความน่าเชื่อถือและยังเกิดความไว้ใจที่จะปฏิสัมพันธ์มากกว่าการโฆษณา ที่สำคัญประหยัดค่าโฆษณาไปได้เยอะเลย
5.ไม่มีการวัดผลและการรายงาน
การทำ Digital Marketing ออกมาโดยไม่รู้ว่าทำไปทำไม ทำโดยไม่มีวัตถุประสงค์ แถมยังไม่ได้วัดผลสำเร็จออกมา เลยไม่รู้ว่าที่ทำไปนั้นดีหรือไม่ดีอย่างไร การทำการตลาดแบบตามๆ กัน โดยไม่ได้ตั้งเป้าหมาย วัตถุประสงค์ให้แม่นๆ ว่าทำออกมาแล้วจะได้อะไร หวังอะไรจากการทำนั้นๆ ถ้าหากตั้งเป้าหมายแล้วก็ต้องทำการวัดผลเก็บข้อมูลมาประกอบ เพื่อปรับปรุงการทำงานให้พัฒนาไปได้อย่างดีในอนาคต