เทไปได้เลย! 4 เรื่องที่ต้องทิ้งของ Digital Marketing ปี 2018
Digital Marketing เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ทำให้นักการตลาดจะต้องปรับตัวอยู่เสมอ การติดตามข่าวสารการเปลี่ยนแปลงจึงต้องทำอย่างต่อเนื่อง เทคนิคที่เคยใช้ได้ตลอดเมื่อนำมาใช้ในปีนี้กลับไม่ได้ผลอย่างที่คาดหมายไว้ ซึ่งหลายสิ่งที่เคยทำได้กลับกลายเป็นทำไม่ได้เหมือนในอดีต ทั้งหมดนี้เกิดจากการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว อันเป็นผลมาจากการพัฒนาเทคโนโลยีต่างๆ ส่งผลให้การประมวลผลของผู้บริโภครวดเร็วยิ่งขึ้น โดยที่ผู้บริโภคยุคใหม่เติบโตมากับสิ่งแวดล้อมที่แตกต่างกับในอดีตเป็นอย่างมาก การตลาดที่เคยทำมาก็ไม่ได้ใช้ได้เช่นเดิม Chess Studio รับทำเว็บไซต์ ขอนำเสนอ 4 เรื่องของ Digital Marketing ที่ต้องทิ้งและควรเลิกทำในปีนี้
1.การตลาดรวมกลุ่มอย่าง Mass Marketing
การตลาดที่เป็นไปตาม Demand และ Supply ตามหลักเศรษฐศาสตร์ “เน้นผลิตจำนวนมาก แล้วขายสินค้าให้กับทุกคนได้เหมือนกัน” ไม่ว่าอะไรก็จะคิดถึง Marketing ที่สามารถทำ Single Message แล้วทำให้เข้าถึงได้ทุกคน จนถึงการทำในรูปแบบ Nationwide แต่เมื่อ Internet ก้าวเข้ามามีบทบาท Social Media ก็มาแรงชนิดที่ว่าผู้บริโภคเสพติดข้อมูลข่าวสารต่างๆ นานาผ่านทางช่องทางนี้ ทำให้จากเดิมที่นักการตลาดเป็นฝ่ายพูดอย่างเดียวนั้ันหมดไป กลายเป็นการทำความเข้าใจและรับฟังผู้บริโภคมาขึ้น เข้าใจความต้องการที่หลากหลายมากขึ้น ตอบโจทย์ได้ตรงใจกับที่ผู้บริโภคอยากได้ส่งผลให้เกิดการขายได้มากที่สุด นักการตลาดควรเริ่มทำ Buyer Persona จะทำให้ทราบว่าผู้บริโภคเป็นแบบไหนบ้าง ความต้องการเป็นอย่างไร ทำความเข้าใจมากขึ้น สร้าง Persomalized Marketing หรือ Segmentation Marketing เพื่อทำให้การตลาดได้ผล และปิดขายขายได้มากที่สุด
2.ลาขาดยุคตัวอักษรที่ไร้รูป
เมื่อก่อนข้อความยาวๆ เป็นอะไรที่ปกติมาก แต่สำหรับในยุคนี้ข้อความที่ยาวเกินไป ถ้าไม่ได้มีประโยชน์หรือเป็นเรื่องที่อยากรู้จริง ผู้บริโภคก็เลือกที่จะไม่อ่านเลย นักการตลาดจึงต้องปรับตัวใหม่ การลดข้อความก็พอสมควร เพราะรูปก็มีผลมากเช่นกัน จาก Social Science Research Network พบผู้บริโภคกว่า 65% มองภาพใช้ในการเรียนรู้ นอกจากนี้ยังพบว่า ผู้ใช้ส่วนใหญ่ชอบดูรูปภาพและวิดีโอมากกว่าข้อความ รูปและวิดีโอสามารถส่งตรงสู่ความทรงจำของสมองมากกว่าข้อควา
3.ความเยอะไม่สำคัญอีกต่อไป
การใช้ Internet ในการเข้าถึงเรื่องราวต่างๆ ผ่านออนไลน์มากกว่า 4 พันล้านคน กลุ่มผู้ใช้เหล่านี้จึงเป็นทั้งผู้เสพและผู้สร้าง Content ซึ่งตอนนี้มีผู้คนมากมายทำให้ information ล้นในระบบ ภาวะ Overload ที่เกิดขึ้น จึงทำให้พฤติกรรมผู้ใช้เปลี่ยนไปโดยมีการเลือกเสพ Content มากขึ้น จะสนใจเฉพาะเนื้อหาที่ตัวเองสนใจและเกี่ยวข้องเท่านั้น ทำให้การผลิต Content ในจำนวนมากๆ ในยุคนี้ไร้ประโยชน์ไปเลย หากไม่มีคุณภาพ ไม่ตรงใจผู้อ่าน ขาดความเป็นตัวตน ถ้าหวังจะดึง Traffic คนเข้าให้ได้ผลก็จะต้องทำ Content คุณภาพและสร้างสรรค์ เน้นเล็งหมัดน๊อคไม่ออกหมัดรัวให้เสียแรง
4.เลิกไปเลย Pop up Ads หรือโฆษณาที่ไม่โดนใจ
การเห็น Pop up Ads หรือ Page Takeover เด้งออกมาจนรู้สึกปกติ แต่โฆษณาประเภทนี้ก็ก่อกวนใจให้ชวนรำคาญและรบกวนสายตา แต่ก็ยังเป็นการตลาดที่หลายๆ คนยังชอบทำอยู่ ด้วยความคิดว่าจะดึงความสนใจของผู้บริโภคได้ ในปี 2016 ทาง Google ประกาศลงโทษเว็บไซต์ รวมไปถึง Moblie Website ที่ใช้ Pop up โฆษณาที่ไม่ตรงหรือไม่เกี่ยวข้องกับผู้บริโภค จึงทำให้โฆษณาแบบ pop up ลงถังไปในที่สุด