ต้องทำ!! การวัดผลการตลาดออนไลน์
ข้อได้เปรียบของการทำการตลาดออนไลน์คือสามารถวัดผลได้แบบ Real time สามารถรู้ได้ว่าโฆษณาแบบไหนเวิร์ค แบบไหนไม่ผ่านต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบใหม่ ทำให้เรารู้เสียงสะท้อนจะลูกค้าเพื่อนำมาปรับปรุงกลยุทธ์การตลาดต่อไป โดยใช้เครื่องมือวัดผลเช่น Google Analytics, Facebook Analytics, Facebook Audience Insights เป็นต้น โดย KPI ที่ใช้วัดผลเป็นหลักมีดังนี้:
1. Engagement
บนเว็บไซต์ สิ่งสำคัญสำหรับอีคอมเมิร์ซควรต้องรู้เกี่ยวกับจำนวนคนที่เข้าเว็บไซต์ ระยะเวลาที่อยู่บนเว็บไซต์ มีหน้าไหนบ้างผู้เข้าชมให้ความสนใจ มีอัตราการกลับมาเยี่ยมชมซ้ำเท่าไร เป็นต้น โดยเราสามารถใช้ข้อมูลตรงนี้นำไปปรับปรุงเว็บไซต์ให้ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้มากขึ้น
2. Traffic
แหล่งที่มาของคนที่เข้าเว็บไซต์ของเราไม่ว่าจะโดยตรง (Direct) ผ่านมาจากเว็บไซต์อื่นๆ (Referral) ผ่านโฆษณา (Paid search) หรือจากแคมเปญที่เราทำก็ดี ตรงนี้ทำให้เรานำไปวิเคราะห์ได้ว่ากิจกรรมทางการตลาดอันไหนได้ผล และควรโฟกัสกับช่องทางไหนมากเป็นพิเศษ
3. Conversion
จำนวนผู้ที่เปลี่ยนสถานะ เช่น สั่งซื้อสินค้า ลงทะเบียนรับส่วนลด โดยปกติแล้วเราจะต้องกำหนด Landing page ซึ่งก็คือหน้าหนึ่งของเว็บไซต์ที่เราส่งให้คนเข้ามา โดยมีความหวังว่าผู้ที่เข้ามาชมจะเกิดการเปลี่ยนสถานะ ยิ่งมีตัวเลขอัตราการเปลี่ยนสถานะเยอะเท่าไร ก็ยิ่งเป็นผลดีต่อแคมเปญนั้นๆ ซึ่งการติดตามวัดผล Landing page อย่างสม่ำเสมอจะทำให้เราทราบว่าควรปรับเปลี่ยนตรงไหน อย่างไร เพื่อให้ Conversion rate เพิ่มขึ้น
อ้างอิงข้อมูลจาก peerpower