วิธีป้องกันบัตรเครดิตออนไลน์ให้ปลอดภัย
คงเป็นการยากที่หลีกเลี่ยงให้ข้อมูลบัตรเครดิตพ้นจากสายตาผู้อื่น เมื่อต้องช้อปปิ้งออนไลน์ แล้วจะมีเคล็ดลับอย่างไรบ้างที่จะป้องกันตัวเองเมื่อต้องซื้อของออนไลน์ Chess Studio รับทำเว็บไซต์ แนะนำว่าหากต้องรูดบัตรพลาสติกโดยพื้นฐานแล้วคุณสามารถตรวจสอบได้โดย
1.ใช้บัตรเครดิต บัตรเดบิตบ่อย เพิ่มมีการป้องกันให้มากขึ้น
เปิดการเพิ่มความปลอดภัยของบัตรเครดิตของคุณ บัตรเครดิตจำนวนมากจะมีการรักษาความปลอดภัยเพิ่มเติมซึ่งไม่ได้ตั้งค่าไว้เป็นการใช้งานเริ่มต้น SecureCode ของ MasterCard คือรหัสแบบครั้งเดียวซึ่งคุณสามารถนำไปใช้ได้ทุกครั้งที่ทำธุรกรรมบนเว็บไซต์ที่รองรับ ส่วน Verified By Visa เป็นการใช้รหัสผ่านเพื่ออนุญาตการซื้อ การป้องกันขั้นสูงเหล่านี้ สำหรับบางธนาคารยังมีระบบตรวจสอบตนเอง ทั้ง SecureCode และ Verified ของ Visa อาจรวมถึง PIN หรือรหัสความปลอดภัยที่ธนาคารส่งไปยังโทรศัพท์ของคุณในฐานผู้ให้สิทธิ์ขั้นที่สอง คุณสามารถตรวจสอบกับธนาคารหรือสถาบันการเงินของคุณเพื่อดูว่ามีตัวเลือกใดที่สามารถใช้ได้บ้าง
ทั้งบัตรมาสเตอร์การ์ดและวีซ่า มีการป้องกันด้วยระบบ Zero Liability เพื่อป้องกันการทำธุรการปลอมทั้งแบบออนไลน์และออฟไลน์
พิจารณาใช้บัตรแยกต่างหากสำหรับการทำธุรกรรมออนไลน์
สำหรับผู้ที่ต้องการซื้อสินค้าออนไลน์ควรใช้บัตรเครดิตแบบเติมเงินเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ดี ทำแยกไปจากบัตรเครดิตจะปลอดภัยกว่า
บัตรเครดิตเสมือนจริง
ธนาคารและสถาบันการเงินบางแห่งอนุญาตให้คุณสามารถสร้างหมายเลขบัตรเครดิตเสมือนจริงได้ เป็นหมายเลขการใช้งานเดียวที่เชื่อมโยงกับบัตรจริง มีวงเงินในการจ่ายและวันหมดอายุเช่นเดียวกับบัตรเครดิตจริงๆ เลย แม้ว่าจะเปิดเผยข้อมูลบนบัตรนี้แต่มิจฉาชีพก็จะได้รับเป็นหมายเลขชั่วคราวเท่านั้น คุณสามารถเปิดเบราว์เซอร์เพื่อล็อคอินบัญชีผู้ใช้ที่เชื่อมโยงกับบัญชีธนาคารเอาไว้อยู่ คุณสามารถอายัดบัตรได้ในทันทีที่ต้องการ
อย่างบัตรเครดิตเสมือนจริงของ True Money เพียงเติมเงินเข้าไปก็สามารถช็อปปิ้งออนไลน์ได้แบบหายห่วง หรืออาจจะเป็น K-web shopping ออนไลน์เพียงคุณสมัคร k-cyber แล้วใส่เงินไว้ในบัญชีก็สามารถจับจ่ายใช้สอยได้อย่างสบายใจ ใช้เสร็จก็อายัดแล้วขอเลขบัตรใหม่ได้ในวันรุ่งขึ้น
2.ใช้บนเว็บไซต์ที่ปลอดภัย โดยดูได้จาก https จะมีการะบุถึงความปลอดภัยไว้
3.อย่าส่งข้อมูลรายละเอียดบัตรเครดิตไม่ว่าจะทั้งทางอีเมล์หรือทั้งทางโซเชียลมีเดีย
เนื่องจากข้อมูลรายละเอียดเหล่านั้นสามารถเผยแพร่โดยไม่ได้ตั้งใจได้ง่าย ยิ่งถ้าหากมีแฮกเกอร์มือดีเข้ามาพบเจอคงได้กอบโกยโอกาสทองไปแบบง่ายดาย นอกจากนี้การลดโอกาสที่จะตกเป็นเหยื่อของการละเมิดข้อมูลบัตรเครดิตโดยไม่ได้รับอนุญาตโดยการตรวจสอบให้แน่ใจว่ารหัสผ่านแยกต่างหากกับทุกบัญชีที่มีแล้วหรือไม่ การจัดการรหัสผ่านที่ง่ายที่สุดคือการสร้างรหัสผ่านไม่ซ้ำกันในเว็บไซต์ต่างๆ นอกจากนี้ควรหลีกเลี่ยงการเชื่อมต่อเครือข่ายผ่าน Wi-Fi สาธารณะเมื่อช้อปปิ้งบนมือถือหรือการโอนเงินผ่านมือถือ
4.ต้องมีโปรแกรม Antivirus ไว้ในเครื่อง เมื่อติดตั้งแล้วจะต้องหมั่นอัพเดทอยู่อย่างสม่ำเสมอ
เพราะอาจมีไวรัส มัลแวร์ต่างๆ ผ่านเข้ามา ตรวจสอบการตั้งค่าเบราเซอร์ของคุณให้เป็นกิจวัตรประจำวัน ปิดการตั้งค่าการบันทึกรหัสอัตโนมัติเพื่อหลีกเลี่ยงกันจัดเก็บรหัสบัตรเครดิต หรือข้อมูลส่วนตัวต่างๆ รวมไปทั้งพาสเวิร์ดล็อคอินเข้าสู่เว็บไซต์ทางการเงินของคุณ
ใน Chorme ให้ไปที่ตั้งค่าขั้นสูง เลือกตรงส่วนใต้รหัสผ่านและตรงฟอร์มให้คลิกการตั้งค่าป้อนอัตโนมัติ ลบข้อมูลบัตรเครติดต่างๆ ที่เคยจัดเก็บไว้อัตโนมัติจากนั้นปิดตัวเลือกการป้อนข้อมูลอัตโนมัติ
ใน Firefox ให้ไปที่ Perferences ค้นห้าแถบข้อมูลส่วนบุคคลและเลื่อนลงค้นหาช่องประวัติ เลือกการใช้ตั้งค่าแบบกำหนดเอง ยกเลิกการเลือกจดจำประวัติและการค้นหาแบบฟอร์ม
ใน Safari ไปที่ Preferences ที่ Autofill กดยกเลิกตัวเลือกที่บัตรเครดิตเพื่อยกเลิกการจดจำข้อมูลตามฟอร์ม
5.หลีกเลี่ยงการคลิกลิ้งก์ผ่านอีเมล์ ส่วนใหญ่เป็นความพยายามที่จะทำการฟิชชิ่ง
6.อ่านคำแนะนำเพิ่มเติมสำหรับการช็อปปิ้งทางออนไลน์ให้ปลอดภัย
7.หมั่นตรวจ Statement บ่อยๆ
การตรวจสอบว่ามีธุรกรรมที่ผิดปกติหรือไม่ มีวิธีที่ดีก็คือต้องคอยตรวจสอบ statement บ่อยๆ การเช็คประวัติการใช้จ่ายโดยตรวจอย่างละเอียดรอบคอบตลอด 24 ชั่วโมงมีการใช้จ่ายแบบใด หากมีสิ่งผิดปกติ พบสิ่งที่น่าสงสัยคุณควรรีบติดต่อธนาคารทันที
8.ระวัง App ปลอม
ไม่ใช่ทุกแอปจะถูกต้องตามกฏหมาย เมื่อพูดถึง app ร้านค้าปลีก ให้ตรวจสอบก่อนการดาวน์โหลดเพื่อให้แน่ใจว่ามาจากผู้ขายจริง การที่ app นั้นไม่มีความเห็น comment ใดๆ จากผู้ใช้ที่โหลดไปก็ดูมีสิ่งผิดปกติ นอกจากนี้การใช้ App moblie banking ของธนาคาร ยิ่งมีการแจ้งเตือนตลอดที่มีการใช้จ่ายผ่านบัตร จึงสามารถป้องกันตัวเองได้ในระดับหนึ่ง
“สุธีจากนอกโลก”